หากพิจารณาแนวโน้มตามประเภทของที่อยู่อาศัยแล้ว
คาดว่าตลาดบ้านจัดสรรในปีหน้าจะมีการเติบโตแบบทรงตัวอยู่ที่ 5% เท่ากับในปีนี้ เนื่องจากราคาต้นค่าก่อสร้างและราคาที่ดินปรับขึ้นเร็ว หากจะขายในราคาให้เท่าเดิมจำเป็นต้องขยับทำเลการพัฒนาออกไปไกลขึ้น แต่จะขายได้ยาก โดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทบวกลบ ที่ปีนี้ไม่สามารถทำได้อีกต่อไปแล้ว โดยคาดว่าปี 2557 ราคาทาวน์เฮ้าส์ขั้นต่ำจะขยับขึ้นไปเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาทบวกลบ ซึ่งทำให้ราคาบ้านจัดสรรในปีหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5%
หากสถานการณ์ทางการเมืองจบลงในระยะเวลาอันสั้น และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวเร็วขึ้น และผลักดันให้แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการขยายตัวในระดับ 10% เนื่องจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังมีอยู่มาก แต่เมื่อเกิดปัญหาความไม่สงบทางการเมืองส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยา ทำให้ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย และชะลอการซื้อในที่สุด แต่เชื่อว่าหากปัญหาดังกล่าวหมดไป ก็ทำให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยกลับมาทันทีในต้นปีหน้า โดยหวังว่าตลาดอสังหาฯภายในปีหน้าจะดีขึ้น ถ้าปัญหาการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดี เพราะความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีอยู่มาก ไม่ใช่กำลังซื้อไม่มี เพียงแต่ว่าบรรยากาศทั้งการเมืองและเศรษฐกิจไม่เอื้อให้เกิดการตัดซื้อได้เร็ว เมื่อหลายปัจจัยผนวกกันจึงทำให้ยอดการเข้าเยี่ยมโครงการในภาพรวมช่วงเดือนธันวาคมลดลงไป แต่ยอดขายโดยรวมก็อยู่ในระดับที่รับได้
เนื่องจากที่ดินในปัจจุบันยังสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ
ส่วนตลาดคอนโดมีดีมานด์จำกัด สามารถทำโครงการได้เฉพาะจังหวัดที่มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจที่สูง เช่น หาดใหญ่ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา ส่วนจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางด้านการบริหารราชการและมีแนวโน้มเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เช่น จังหวัด ขอนแก่น มีการขยายเส้นทางคมนาคมขนส่ง เมืองจะขายตัวออกไปทำให้มีโอกาสเติบโตของตลาดแนวราบสูงขึ้น และจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใกล้ชายแดน เช่น อุดรธานี และ สงขลา มีแนวโน้ม จะพัฒนาเมืองเป็นประตูสู่ประเทศไทย คาดว่าจะมีโอกาสการเติบโตการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนทั้งแนวราบและแนวสูง http://www.bkkcitismart.com/Townhouse
ธุรกิจบ้านจัดสรรมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
ตลาดบ้านจัดสรรราคาแพงชะลอตัวลงไปมาก แต่บ้านจัดสรรราคาถูกและบ้านจัดสรรราคาปานกลางตลาดยังมีความต้องการอยู่ ผู้จัดสรรรายใหญ่หลายรายจึงเพิ่มแนวทางทำตลาดบ้านจัดสรรราคาปานกลางระดับ 3 – 5 ล้านบาทมากขึ้น เพราะเห็นว่าตลาดดังกล่าว เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อดีอยู่ โดยเฉพาะเมื่อการบริโภคชะลอตัวลงมาก ผู้ซื้อมีกำลังลดลง ความสามารถในการผ่อนชำระค่าบ้านจะลดลง ตลาดบ้านระดับราคาปานกลางจึงเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการทุกรายให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งยังต้องแข่งขันกับตลาดที่อยู่อาศัยประเภทอื่น เช่น ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมืองหรืออยู่ใกล้กับแนวทางรถไฟฟ้าระบบราง ภาวะการแข่งขันของตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลาง จึงมีความรุนแรงและแย่งชิงตลาดกันอย่างมาก